วันศุกร์ที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2556

Sketchpad ใช้ทำอะไรได้บ้าง สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีช กล่าวว่า The Geometer’sSketchpad เป็นโปรแกรมอเนกประสงค์ ขอบเขตของการใช้ขึ้นอยู่กับจินตนาการของ ผู้ใช้ ตัวอย่างที่สามารถทำได้โดยใช้ Sketchpad . การสำรวจและการสอนทฤษฎีบททางเรขาคณิต ในหนังสือเรขาคณิตมักเต็มไปด้วยทฤษฎีบท สัจพจน์ บทแทรก บทตั้ง (lemma) และบท นิยาม ซึ่งมีหลากหลายอย่างที่ยากที่การเข้าใจ หรือแม้จะเข้าใจก็ไม่ลึกซึ้ง วิธีที่จะให้เข้าใจทฤษฎีบท ที่ยาก ๆ หรือวิธีการสอนเรื่องยากในชั้นเรียน คือ การใช้ Sketchpad สร้างแบบจำลองต่าง ๆ . การนำเสนอในชั้นเรียน แบบร่างที่นำเสนอเป็นเอกสารของ Sketchpad ที่ได้ออกแบบไว้สำหรับการนำเสนอไปยัง กลุ่มบุคคลต่าง ๆ เช่น นักเรียน เพื่อนร่วมชั้นเรียน หรือครู โดยปกติแบบร่างที่นำเสนอจะมี ภาพกราฟิกที่สวยงาม เคลื่อนไหวได มีปุ่มแสดงการท างานต่าง ๆ และมีเนื้อหาได้หลายหน้า ครู สามารถใช Sketchpadให้เป็นเครื่องมือที่จะช่วยให้การสอนมีประสิทธิภาพ ถึงแม้ว่าจะไม่สามารถ สอนในห้องปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ได้ทุกวัน แต่ก็สามารถนำงานมาสาธิตในห้องเรียนที่มี คอมพิวเตอร์เพียงเครื่องเดียวพร้อมเครื่องฉาย LCD ได้ นอกจากนี้นักเรียนยังสามารถนำงานที่สร้าง ในแบบร่างมาเสนอในชั้นเรียน การศึกษารูปต่าง ๆ จากหนังสือเรียน เมื่อเราชำนาญในการใช้ Sketchpad แล้ว จะพบว่าในการสร้างรูปต่าง ๆ บนจอคอมพิวเตอร์ จะใช้เวลาน้อยกว่าการสร้างด้วยมือ นอกจากนั้นในการสร้างรูปด้วย Sketchpad ยังได้เปรียบตรงที่ สามารถทำให้รูปนั้นเคลื่อนไหวได้ และสำรวจการเปลี่ยนแปลงได้ ดังนั้นควรพิจารณาใช้ ในการ สร้างและศึกษารูปในหนังสือเรียนและในการทำการบ้าน ใช้ Sketchpad ในรายวิชาต่าง ๆ ของคณิตศาสตร์ Sketchpad เป็นเครื่องมือที่จะเป็นอย่างยิ่งในรายวิชาต่าง ๆ ของคณิตศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็น นักเรียนหรือครู เช่นในพีชคณิต สามารถใช้ สำรวจความชันและสมการของเส้นตรง สำรวจสมบัติ พาราโบลา และหัวข้ออื่น ๆ ที่สำคัญอีกลายหัวข้อ ในวิชา algebra และ pre – calculus ทั้งนักเรียน และครูสามารถสำรวจการเคลื่อนไหวของวงศ์ของฟังก์ชันด้วยการใช้คำสั่งต่าง ๆ จากเมนูกราฟ ใช้กับวิชาตรีโกณมิติ ในวิชาแคลคูลัส ใช้สำละใช้คำสั่งอนุพันธ์ หรือ สำรวจปริพันธ์โดยการสร้างพื้นที่ที่ปิดล้อมด้วยเส้นโค้ง นอกจากนี้ Sketchpadยังสามารถใช้ประโยชน์ในวิชาคณิตศาสตร์ ระดับวิทยาลัย เช่นวิชา non- Euclidean geometryหรือหัวข้อต่าง ๆ ในวิชาคณิตศาสตร์ชั้นสูง รากศัพท์คำว่า เทสเซลเลชัน ของนักภาษาศาสตร์และนักประวัติศาสตร์พบว่า “Tessellation” มีรากศัพท์มาจากภาษากรีก คือ “Tesseres” ซึ่งหมายถึง ดังนั้นความหมายของคำว่า “Tessellate” ในภาษาอังกฤษจึงถูกนิยามไว้ว่าเทสเซลเลชัน คือ การน ารูปทั้งที่เป็นรูปเรขาคณิตและ รูปทั่วไปมาเรียงต่อกันโดยมีเงื่อนไขว่ารูปที่นำมาจัดเรียงนั้นจะต้องไม่เกิดช่องว่างหรือการคาบเกี่ยว ซ้อนกันเกิดขึ้น เทสเซลเลชันจากรูปเรขาคณิต : เทสเซลเลชันจากรูปเรขาคณิตเกิดจากการน าชิ้นส่วนที่เป็นรูปเรขาคณิตลักษณะต่าง ๆเช่น รูปสามเหลี่ยม รูปสี่เหลี่ยม รูปหกเหลี่ยม หรือ อื่น ๆ มาจัดเรียงต่อกันจนเต็มพื้นระนาบโดยไม่เกิด ช่องว่างหรือการคาบเกี่ยวซ้อนกัน ซึ่งในการสร้างเทสเซลเลชันอาจจะเกิดจากการจัดเรียงชิ้นส่วน รูปเรขาคณิตเพียงชนิดเดียวหรือหลายชนิดก็ได้เรียกว่าเทสเซลเลชันที่เกิดจาชิ้นส่วนรูป เรขาคณิต เพียงชนิดเดียว หรือ เรียกว่าเทสเซลเลชันแบบปรกต (Regular Tessellation) ดังรูป

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น